1.อย่างแรกเลยต้องดูว่าเครื่องสำอางที่เราจะซื้อเป็นแท้ที่ถูกตามกฎหมายกำหนดและได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุขหรือไม่ ประเด็นนี้น่าสนใจมากเลยนะคะอ่านให้จบนะคะ 
เพราะ บางยี่ห้อมีการอ้างเป็นสินค้าเกาหลีบ้างอะไรบ้าง อย่าคิดว่าไม่เสี่ยงนะคะ สินค้านำเข้าเราต้องดูว่า บริษัทที่นำเข้าคือบริษัทอะไร  สังเกตุที่ข้างกล่องนะคะ จะมีบอกว่าผลิตโดยใคร และจำหน่ายโดยใคร เราก็เอาข้อมูลชื่อบริษัทที่ผลิตและบริษัทที่จำหน่ายไปค้นหาใน Google ได้เลยคะ ปัจจุบันนี้ไม่มีความลับอีกแล้วค่ะหน่วยงานของรัฐมีการเผยเผยข้อมูลส่วนที่เปิดเผยได้ผ่านระบบออนไลน์แล้วคะ เราก็ดูว่ามีตัวตนจริงมั้ย หากมีตัวตนจริงก็ให้ผ่านข้อนี้ได้ค่ะ  เครื่องสำอางนำเข้าจากต่างประเทศทุกชิ้นก็ต้องมีการรับรองจากกระทรางสาธารณะสุขนะค่ะ หากเครื่องสำอางที่นำเข้ามาไม่มีการรับรองจากกระทรางสาธารณะสุข หมายความเป็นเครื่องสำอางเถื่อนค่ะ (ผู้ใช้ต้องเสี่ยงต่อผลที่ได้รับเองนะคะ เพราะ ต่างประเทศก็มีของปลอมเหมือนกันค่ะ)  ส่วนเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยนั้นอย่าเพิ่งคิดว่ามันไม่เทพ มันไม่ดีนะคะ เครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทย คุณภาพไม่แตกต่างกับของต่างประเทศหรอกค่ะจะดีไม่ดีอยู่ที่ส่วนประกอบของเครื่องสำอางค่ะไม่ใช่อยู่ที่ชื่อประเทศ นะคะ  และเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยตรวจสอบง่ายกว่าคะ  กระทรางสาธารณะสุข จะไปตรวจสอบกระบวนการผลิตเองเลยคะ ว่าจัดตั้งโรงผลิตได้ตามมารตรฐานหรือไม่ สังเกตุง่ายๆ หากเครื่องสำอางนั้นที่การผลิตและจำหน่ายอย่างถูกต้อง มักจะแสดงที่อยู่บริษัทที่ครบถ้วนนะคะ เช่น ชื่อบริษัท เลขที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด  

2.วันผลิต และวันหมดอายุ  ส่วนมากจะระบุอายุไว้ 2 ปี แต่ก็มีบางยี่ห้อระบุมากกว่านั้น มากสุดอาจถึง 5 ปีเลยขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องสำอางนะคะ เราจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดในข้อนี้นะคะ เอาเป็นว่า ดูให้ดีๆก่อนซื้อนะคะ 

3. อย. หลายคนมักไปหาคำว่าอย.ในเครื่องสำอาง หายังไงก็ไม่เจอค่ะ เพราะเครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกนนั้น(ไม่กินเข้าไป)  เขาจะไม่ใช้คำว่า อย. นะคะ เขาใช้คำว่าเลขที่จดแจ้งนะคะ   แต่หากเป็นพวกอาหารเสริมที่ต้องกินเข้าไป เขาจะใช้คำว่า อย. นะคะ  แต่อย่าชล่าใจไปนะคะ อย.เถื่อน หรือ เลขที่จดแจ้งเถื่อนมีเยอะนะคะ  สินค้าเถื่อนบางเจ้าใช้เลข อย. หรือ เลขที่จดแจ้ง ปลอม บางทีก็มีแบบเอา เลขที่ จดแจ้ง หรือ อย. ของคนอื่นไปลงหน้าด้านๆเลยค่ะ  ขอให้ตรวจสอบผ่าน Google ก่อนนะ  ค้นหาคำว่า ตรวจสอบ อย.  เข้าเว็บไซต์ของกระทรวงสารธณะสุข แล้วตรวจสอบ

      ความมีตัวตนของผู้ผลิตและผู้จำหน่าย สำคัญเป็นที่ 1
      ผู้ผลิตและผู้จำหน่าย อาจเป็นบุคคล หรือ นิติบุคคลก็ได้ ขอแค่ทำถูกหลักการของกระทรวงวสาธาณะสุขและได้รับการรับรอง

      สินค้าบีกินไลฟ์ทุกชิ้นทุกชนิด   เช่น สบู่แพลงตอน เซรั่มวิตามินซี ครีมนวดหน้า มาส์กแพลงตอน  และสินค้าอื่นๆของบีกินไลฟ์จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย